ครอบครัว



 22.ครอบครัว

"ขอให้ชั้นดูหน้าลูกหน่อยได้มั๊ยคะ"   ...คุณแม่คนใหม่เอ่ยขึ้น เมื่อห่อผ้าน้อย ๆ....       อยู่ในอ้อมกอดเธอ เธอค่อย ๆ ...คลี่ผ้าที่ห่อออกเพื่อมองใบหน้าเล็ก ๆ เธอกรีดร้อง.... หมอต้องอุ้มเด็กออกไปอย่างรวดเร็ว...เด็กทารกที่เกิดมาไม่มีใบหู...กาลเวลาพิสูจน์ว่าการได้ยินของเจ้าหนูไม่มีปัหา ...ปัญหามีเฉพาะสิ่งที่มองเห็นภายนอกคือใบหูที่หายไป ...หลายครั้งที่เจ้าหนูกลับจากโรงเรียนแล้ววิ่งมาซบอกแม่...เธอรู้ว่าหัวใจลูกปวดร้าวแค่ไหน ....จ้าหนูพูดโพล่งออกมาอย่างน่าเศร้า   "พวกเด็กตัวโต พวกมันล้อผมว่า ไอ้ตัวประหลาด"   
 เจ้าหนูเติบโตขึ้น....หล่อเหลา เป็นที่รักของเพื่อน ๆ เค้ามีพรสวรรค์ในด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี และดนตรี เค้าอาจได้เป็นหัวหน้าชั้น...แต่เพราะเจ้าสิ่งนั้น... "ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะลูก" ...แม่กล่าวด้วยความสงสาร ...พ่อของเด็กชายปรึกษากับหมอประจำครอบครัว ..."ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูได้ครับ ถ้ามีผู้บริจาค  แต่ใครล่ะจะเสียสละใบหูเพื่อเด็กน้อยคนนี้"     คุณหมอกล่าว .....2 ปีผ่านไป พ่อบอกกับลูกชาย "ลูกเตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ พ่อกับแม่หาคนบริจาคใบหูที่ลูกต้องการได้แล้ว ....แต่นี่เป็นความลับ" การผ่านตัดสำเร็จด้วยดี คนคนใหม่เกิดขึ้น
เค้ากลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ เป็นอัจฉริยะในโรงเรียน...ในวิทยาลัย ...จนเป็นที่กล่าวขานกันรุ่นต่อรุ่น ...ต่อมาได้แต่งงานและทำงานเป็นข้าราชการในสถานทูต ...วันหนึ่งชายหนุ่มถาม ผู้เป็นพ่อ "พ่อครับใครเป็นคนมอบใบหูให้ผม ใครช่างให้ผมได้มากมาย ...แต่ผมไม่เคยทำอะไรเพื่อเค้าได้เลยสักนิด" "พ่อไม่เชื่อว่าลูกจะตอบแทนเค้าได้หมดหรอก ...เรื่องนี้เป็นความลับ เราตกลงกันแล้ว" ...พ่อตอบ ...หลายปีที่มันยังคงเป็นความลับ ...แต่แล้ววันหนึ่งวันที่มืดมิดที่สุดผ่านเข้ามาในชีวิตลูกชาย ...เค้ายืนข้างพ่อใกล้หีบศพของแม่ พ่อค่อย ๆ ลูบผมแม่อย่างช้าๆ และนุ่มนวล ผมสีน้ำตาลแดงถูกเสยขึ้นจนมองเห็น ..แม่ไม่มีใบหู ใบหูของแม่ถูกตัดไป.. พ่อกระซิบผ่านลูกชาย "แม่บอกพ่อว่า เธอดีใจที่ได้ทำอย่างนี้ เธอไม่เคยตัดผมอีกเลย ...ไม่มีใครมองเห็นว่าเธอไม่สวย จริงมั๊ย" จงจำไว้ "สิ่งมีค่าที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่การมองเห็น หากแต่อยู่ที่สิ่งที่เรามองไม่เห็น ความรักที่แท้จริง  ไม่ได้อยู่ที่เราได้ทำอะไรแล้วมีคนรับรู้ ...หากแต่อยู่ที่สิ่งที่เรากระทำแล้วไม่มีใครรับรู้ ความรัก บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดพร่ำเพรื่อ"
         อ่านบทความนี้แล้วลองกลับมาคิด ..ถ้าพรุ่งนี้เราตายไป...บริษัทสามารถหาคนมาแทนเราได้ภายในไม่กี่วัน...แต่ครอบครัวเราต้องสูญเสีย ...และคิดถึงเราไปตลอด เราใช้ชีวิตกับการทำงานมากกว่าครอบครัวหรือเปล่า ..เป็นการลงทุนที่ไม่ฉลาดเลยจริงๆ