ธรรมทายาทคือใคร?


เมื่อ ๒๒ ปี ก่อนโน้น...

มีคนหนุ่ม ๖๐ คน ได้กระทำการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เอาตนเองเป็นเครื่องทดสอบ ใช้ห้องแล็ป คือ กลดหลังน้อยบนท้องนาอันเวิ้งว้าง แตกระแหงแห้งผาก ณ ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมุ่งมั่นที่จะแสวงหาสัจธรรม เพื่อขจัดข้อโต้แย้งที่คลางแคลงใจเกี่ยวกับ การฝึกสมาธิ

        หลังจากสมาทานธุดงค์ รักษาศีล ๘ ฝึกสมาธิวันแล้ววันเล่า ท่ามกลางลมร้อนเดือนเมษายนในเวลากลางวัน และน้ำค้างที่หนาวเหน็บยามค่ำคืน มีขี้ไต้ต่างแสงนีออน มีกลอดเป็นห้องนอน และมีเสื่อกกอีก ๑ ผืน ต่างฟูกไว้พักพิง

        ๑๕ วันผ่านไป เมื่อสิ้นสุดการอบรม คนหนุ่มทั้ง๖๐ คน แม้จะเกรียมแดด แต่แข็งแกร่งทั้งร่างกาย และจิตใจ พวกเขาได้เรียนรู้ ไม่เพียงแต่สิ่งที่อยากรู้ แต่ยังเรียนรู้ และได้ทำหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตนจะทำได้
        จากปากต่อปาก จากเพื่อนสู่เพื่อน จากพี่ถึงน้อง ถ้อยคำเชิญชวนให้เข้ารับ "การอบรมธรรมทายาทได้แพร่สะพัดขยายกระจายไป และแล้วจากวันนั้นถึงวันนี้ เยาวชนอีกนับร้อยนับพันก็ได้มาพิสูจน์ตนเอง

        จาก ๖๐ คน ในภาคฤดูร้อนปี ๒๕๑๕ มาเป็นกว่า ๑,๐๐๐ คนในฤดูร้อนปี ๒๕๓๒ และตั้งแต่ปี ๒๕๒๒ การอบรมธรรมทายาทได้เพิ่มหลักสูตรเป็นระยะเวลา ๒ เดือน ใน ๑ เดือนแรกเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกระเบียบวินัย มารยาท เพื่อเตรียมบวช ผู้ที่ผ่านหลักสูตรจึงจะได้บรรพชาอุปสมบท และบำเพ็ญสมณธรรมอีก ๑ เดือน

        ต่อมา ในปี ๒๕๓๐ มีกิจกรรมพิเศษ คือ การเดินธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมในต่างจังหวัด เป็นเวลาประมาณ ๑๐ วัน นอกจากนั้น พระภิกษุสามเณรธรรมทายาท ยังได้มีโอกาสร่วมพิธีชักผ้าป่าในวันวิสาขบูชาอีกด้วย

        โครงการอบรมธรรมทายาท และอุปสมบทหมู่ภาคฤดูร้อน เป็นโครงการปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เยาวชนของชาติตามพุทธวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพียงวิธีเดียว ในการนำมาใช้พัฒนาเยาวชนของชาติอย่างได้ผล โดยใช้เวลาในช่วงปิดภาคฤดูร้อนของทุกๆปี รับสมัครนิสิตนักศึกษาชายเข้ามาฝึกฝนตนเองด้วยการปักกลดอยู่ธุดงค์ ฟังธรรม รักษาศีล ๘ อย่างเคร่งครัด (แต่ไม่เคร่งเครียดและฝึกสมาธิอย่างจริงจังติดต่อกันเป็นเวลา ๑ เดือน เพื่อเตรียมกายและใจ ให้พร้อมที่จะบวช

        การบวช คือ การยกฐานะจากผู้นับถือพระรัตนตรัยขึ้นเป็น ส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย เป็นสิ่งที่ประเสริฐยิ่งของมนุษยชาติ เป็นหนทางไปสู่พระนิพพาน

        ผู้ที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรครบ ๑ เดือน จะได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท บวชเป็นพระภิกษุธรรมทายาท ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม หลังจากนั้นจะกลับไปฝึกฝนอบรมต่อ ณ วัดพระธรรมกาย อีก ๑ เดือน
เพื่อตอกย้ำความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนา ที่งทางด้านปริยัติ และปฏิบัติ

        ฉะนั้น พระภิกษุธรรมทายาท จึงมิได้บวชอย่างที่เรียกว่า ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณี ไม่ใช่เป็นเพียงการไปจากบ้านเรือน และเลิกนุ่งห่มแบบฆราวาสเท่านั้น แต่เป็นการบวชทั้งกาย และใจ เพื่ออบรมตนให้เปี่ยมล้นด้วนศีล สมาธิ ปัญญา แม้ลาสิกขากลับไปครองเพศฆราวาส ก็ยังเป็นผู้ที่มีแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงาม มีความรู้คู่คุณธรรม พร้อมที่จะนำประเทศชาติ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง.




ธรรมทายาทคือใคร ?

       โดยคำแปลแล้ว "ธรรมทายาท" คือ ผู้รับมรดกธรรมจาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
       โดยความหมาย "ธรรมทายาท" คือ "ผู้ตั้งใจฝึกหัดอบรมตนตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด มีความประพฤติดีงาม ชนทั้งหลายสามารถถือเป็นตัวอย่างได้ ยอมสละความสุขส่วนตนทางโลกโดยไม่หวังเอาลาภ ยศ สรรเสริญ และประโยชน์สุขส่วนตัวเป็นสั่งตอบแทนแต่มุ่งที่จะประกอบบุญกุศล สร้างสมบารมี ตามอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมัยเมื่อยังทรงบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์อยู่"

        การที่จะบำเพ็ญตนดังนื้ได้ จำเป็นต้องหมั่นศึกษาฝึกฝนอบรมตนให้มีความรู้ ความสามารถทั้งทางโลกและทางธรรม และสร้างนิสัยความเป็นผู้นำ ให้เกิดขึ้นแก่ตนเองอีกด้วย
         "ธรรมทายาท" ที่แท้จริงจึงจำเป็นต้องฝึกหัดอบรมตนเอง ให้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
        - ต้องตั้งใจศึกษาหาความรู้ โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ให้เป็นบัณฑิต เป็นพหูสูต ทั้งทางโลกและทางธรรม
        - ต้องมีหิริ โอตตัปปะ ตั้งใจละชั่ว ประพฤติชอบ ประกอบความเพียร เพื่อให้กาย และใจใสละอาดอยู่เป็นนิตย์
        - ต้องฝึกตนให้เป็นผู้มีขันติ เข้มแข็ง อดทน อดกลั้นต่ออำนาจฝ่ายตั้งของกิเลส
        - ต้องฝึกตนให้เป็นคนรักสงบ รังเกียจการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตการรังแกเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
        - ต้องสำรวมระวังความประพฤติให้ดีงาม รักศีลยิ่งกว่าชีวิตฝึกอบรม กิริยามารยาทให้เรียบร้อยอยู่เสมอ
        - ต้องฝึกตนให้เป็นคนรู้จักประมาณตน ไม่เห็นแก่กิน ไม่ฟุ่มเฟือย หรูหรา
        - ตั้งใจฝึกสมาธิให้แก่กล้ายิ่งขึ้น โดยไม่ทอดธุระ

วัตถุประสงค์การอบรมธรรมทายาท

       ๑. เพื่อเป็นการอบรมการฝึกสมาธิอย่างถูกต้อง ณ สถานที่อันร่มรื่นเหมาะสมกับการฝึกสมาธิ ภายใต้การดูแลของคณะพระอาจารย์พระพี่เลี้ยง
       ๒. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ในการฝึกอบรมตนเองให้เป็นผู้ที่มีความอดทน มีความตั้งใจมั่นคง และมีความเพียร ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่าง ๆ
       ๓. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาภาคปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นการขจัดข้อสงสัย ข้อโต้แย้งนานาประการ เกี่ยวกับการฝึกสมาธิ และหลักธรรมในพระพุทธศาสนา
      ๔. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม สามารถนำหลักธรรม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตประจำวัน อันเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม
      ๕. เพื่อสร้างธรรมทายาทผู้เป็นทายาททางธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาส้มพุทธเจ้า เป็นผู้มีสัมมาทิฐิ ไม่งมงาย ไม่ยึดมั่นในสิ่งผิด เป็นผู้มีสติตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เป็นผู้มีคุณธรรมเพียบพร้อมครบครัน ทั้งปัญญาทางโลกและทางธรรม

ข้อปฏิบัติระหว่างการอบรม


       ๑. สมาทานรักษาศีล ๘ อย่างเคร่งครัด เพื่อทำใจให้สงบไม่ฟุ่งซ่าน
       ๒. อยู่ในเสนาสนะที่กำหนดให้
       ๓. งดการสูบบุหรี่ หรือยาเสพติดอื่น ๆ อย่างเด็ดขาด
       ๔. ไม่พกพาหรือครอบครองสิ่งที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการอบรม เช่น อาวุธ ยาเสพติด วิทยุเทป หนังสือเริงรมย์ เครื่องประดับมีค่า อุปกรณ์สื่อสารเป็นต้น
       ๕. อยู่ในเขตการอบรมที่กำหนดให้หากจำเป็นต้องออกนอกเขตการอบรมต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากคณะผู้ดำเนินการอบรมก่อนทุกครั้ง

       ๖. ในช่วงปฏิบัติธรรมก่อนบวช ควรหลีกเลี่ยงการนัดหมายให้ผู้อื่นมาพบหรือโทรศัพท์ไปสนทนา เพื่อหลีกเลี่ยงจากความไม่สงบใจ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความมุ่งมั่นในการฝึกฝนอบรมตนได้

       หมายเหตุ ในช่วงหลังบวชแล้ว ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ เป็นเวลาสำหรับญาติโยมได้พบปะสนทนากับพระภิกษุสามเณรธรรมทายาท เพราะในช่วงเวลาอื่นอาจไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร

       ๗. จงอดทน อดกลั้น ต่ออุปสรรคทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความลำบากทางกาย หรือความไม่ชอบใจใดๆ ก็ตาม เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นบทฝึกอันดีเยี่ยมที่ฝึกฝนให้คุณธรรม และความสามารถของเราเพื่มพูนยิ่งขึ้นไป

       ๘. ให้ความเคารพเชื่อฟัง ต่อคณะผู้ดำเนินการอบรมไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบของการอบรม

       ๙. การลา ให้ลาได้ในกรณีพิเศษ เช่น เกณฑ์ทหาร พ่อแม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิต เป็นต้น ถ้าลาในกรณีทั่วไป จะต้องถูกตัดคะแนน ๓ คะแนนในวันแรก และตัดอีกวันละ ๑ คะแนนในวันต่อ ๆ มา ถ้าถูกตัดถึง ๑๐ คะแนน จะหมดสิทธิ์บวช ส่วนหลังบวชแล้วไม่อนุญาตให้ลาในกรณีทั่วไป

ที่มา : https://kalyanamitra.org