ตอนแรกเลย
เคยมีความคิดอยู่แล้วว่า อยากจะบวช เพราะตอนอยู่ ม.2 เคยไปอบรมที่วัดชลประทานอยู่
3 วัน
ซึ่งในการอบรมครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันส่วนหนึ่งของการอบรมในครั้งนี้
เมื่อมีโอกาสก็ตัดสินใจได้เลยอย่างไม่ลังเล ประจวบเหมาะกับมาเรียนอยู่ที่สถาบันนี้
จิตใจฟุ้งซ่าน และได้มารับรู้ว่า จะมีการอบรมธรรมทายาทขึ้น มีการฝึกสมาธิด้วย
ก็เลยอยากมาบวช ทำให้การตัดสินใจนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทางบ้านก็สนับสนุน
เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วก็ทำให้มีวันนี้เกิดขึ้น
2 เดือนที่ผ่านมานี้
กับสิ่งที่ผมได้รับ ผมสามารถบรรยายออกมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ต้องมาสัมผัสเอง
ถึงจะรู้ว่า ความรู้สึกนี้เป็นอย่างไร
ความประทับใจและประโยชน์ที่ผมได้รับ
เช่น เรื่องการตรงต่อเวลา ทำให้ผมเป็นคนตรงต่อเวลามากขึ้น มีระเบียบวินัย
เป็นคนละเอียด คือ ไม่ว่าจะทำสิ่งใด ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ทำให้ละเอียด ประณีตเพราะได้รับการฝึกฝนมา
พอทำอะไรแบบขอไปที จะทำไม่ได้ กระดากใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าไม่มีใครเห็น
แต่จิตใจของเรานี้เห็น เพราะฉะนั้นก็จะขจัดความมักง่ายไปด้วย
ส่วนในเรื่องของความอดทน
ผมเองนั้นต้องฝึกความอดทนอย่างมาก เช่น การอดทนต่อความง่วง แต่ก่อนไม่เคยตื่นตี 4
ก็ต้องมาตื่น อดทนต่อสิ่งที่เราไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำ
แต่ความลำบากที่กล่าวมาแล้วนี้
ก็มาสามารถเป็นอุปสรรคต่อการตั้งใจฝึกฝนอบรมตัวเอง
กลับกลายเป็นสิ่งที่ฝึกฝนจิตใจของเราให้เข้มแข็งประดุจโลหะที่ใช้ทำเฟือง
ซึ่งเป็นโลหะที่มีความแข็งคู่กับ ความ เหนียวแต่สำหรับใจเราแล้ว
การฝึกฝนนี้จะได้ความเข้มแข็ง ทั้งกายและใจคู่กับความนุ่มนวลของ
กายและใจ
การอบรมธรรมทายาทที่ผมได้กล่าวมานี้
บางคนอาจจะคิดว่า ก็แค่นั้นแต่จริงๆแล้ว คุณต้องมาลองสัมผัสมันดู
แล้วคุณก็จะได้รับความรู้สึกเหมือนกับผมที่ไม่สามารถเขียนออกมาให้คุณอ่านได้หมด
คุณไม่อยากรู้หรือว่าธรรมทายาท
ทายาทที่แท้จริงของพระพุทธองค์นั้นมีความรู้สึกกันอย่างไร ผมอยากให้คุณมาลองจริงๆ