เวลาไม่คอยใคร
อัจเจนติ กาลา ตรยันติ
รัตติโย วโยคุณา อนุปัพพัง ชหันติ
เอตัง ภยัง มรเณ เปกขมาโน
ปุญญานิ กยิราถ สุขาวหานิ
ฯ
(อัจเจนติสูตร) ส.ส.๑๕/๔/๓
กาลเวลาก็ล่วงไป
คืนวันก็ผ่านไป ชั้นแห่งวัยก็ละลำดับเรื่อยไป
มองเห็นภัยในมรณะอยู่
ฉะนี้
ก็พึงทำบุญ อันจะนำสุขมาให้เข้าไว้เถิด
ชีวิตคนเราเหมือนกับการเดินทาง
คือมีจุดเริ่มต้นและมีจุดหมายปลายทาง ทุกลมหายใจเข้าออกเป็นการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางทั้งสิ้น
แม้ว่าชีวิตในแต่ละวัน จะมีการหยุดพักผ่อนหลับนอนบ้าง
อยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนบ้าง แต่ว่าวัยหรืออายุหาได้หยุดพักไม่
คงเดินทางเรื่อยไป จึงเท่ากับว่าชีวิตเดินทางอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
ทั้งนี้ก็เพราะชีวิตนั้นหมุนไปตามกาลเวลาและคืนวันที่ล่วงผ่านไปเรื่อยๆ
กาลเวลาและคืนวันนั้นมิใช่จะผ่านล่วงไปเฉยๆ
ยังพาเอาวัยหรืออายุของคนเราผ่านไปล่วงไปด้วย
คือวัยของคนเราก็เดินหน้าละลำดับไปเรื่อยๆ
จากลำดับปฐมวัยผ่านไปสู่ลำดับมัชฌิมวัย
อันจุดหมายปลายทางของชีวิตนั้นก็คือมรณะหรือความตายนั่นเอง
หลังจากมรณะก็เป็นเรื่องของการเดินทางไปสู่ปรโลกต่อไป
อันมรณะนี้ดูออกจะน่ากลัวอยู่มาก
ผู้คนทั่วไปไม่อยากจะพบเจอนัก แม้ชื่อก็ไม่อยากจะได้ยินเสียแล้วแต่จะต้องการหรือไม่ต้องการก็ต้องเดินทางไปหาและต้องพบแน่นอน
ไม่มีใครหลีกหนีไปได้เลยแม้แต่คนเดียว เพราะฉนั้นเมื่อจะต้องพบกันแล้วเพื่อจะได้ไม่ต้องกลัวกันมาก
ท่านจึงแนะนำให้คนเราทำความคุ้นเคยกันมรณะเสียด้วย
การนึกถึงบ่อยๆซึ่งเรียกว่า มรณะสติ
ซึ่งหมายถึงให้นึกถึงมรณะเป็นประจำ จนมีความรู้สึกว่าเหมือนคนกันเองที่พบหน้ากันบ่อยๆ
ก็หายกลัวกันไป
อนึ่ง ก่อนที่จะไปพบกับมรณะนั้น
เพื่อความไม่ประมาท ท่านแนะนำให้เตรียมเสบียงให้พร้อมเข้าไว้
เหมือนคนที่เดินทางไกล เตรียมเสบียงสำหรับกินใช้กลางทางและตอนถึงปลายทางแล้ว
เสบียงที่ท่านเตรียมนั้นก็คือบุญ เพราะบุญเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะอำนวยความสุขความสบายให้แก่คนที่เดินทางไปสู่ปรโลกได้
นอกจากนี้แล้วเป็นไม่มี ทรัพย์สมบัติ
ลูกเต้า คนที่รัก
ยศศักดิ์ต่างๆ ที่มีอยู่ไม่อาจช่วยเหลือหรือติดตามไปได้เลย
อย่างดีก็มาส่งกันแค่ประตูเตาเผาเท่านั้นเอง
การที่ยังปล่อยให้วัยล่วงเลยไปเปล่าๆ
แม้จะอยู่ในวัยที่แก่แล้ว โดยไม่เตรียมสะสมเสบียงคือบุญกุศลไว้บ้าง
หรือคิดว่าเมื่อตายไปแล้วลูกหลานของเขาคงทำไปให้เอง
นับว่าประมาทยิ่งแล้ว สะสมบุญไว้ด้วยตนเองเรื่อยไป
นั่นแหละเป็นดีที่สุดและถูกต้องที่สุด การหวังน้ำบ่อหน้านั้น
โบราณเขาสอนกันนักว่า ไม่ควรประพฤติ
เพราะมีแต่จะทำให้ผิดหวังอย่างเดียว
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี
สุระเตโช ป.ะ.๙
ราชบัณฑิต)
เจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร